Site announcements
ข้าม {$ a}
รายวิชาที่มีอยู่

- อาจารย์: Furkorn AnubanAoluk
- อาจารย์: Anuwat Nonglumpho
- อาจารย์: singha petnongchum
- อาจารย์: Anecha Promthong
- อาจารย์: ฟัดลีนา ข.ล.
- อาจารย์: ชวลิต บินตัยยิบ
- อาจารย์: ยุทธนา บ้านทุ่งสูง
- อาจารย์: ภาวัชวดี บ้านบางเจริญ
- อาจารย์: มนัสวี พ.ส.
- อาจารย์: วิชิดา วัดบางโทง
- อาจารย์: ผอ.สิงหา อนุบาลอ่าวลึก
- อาจารย์: วรศิน อนุบาลอ่าวลึก
- อาจารย์: ไรดา อล.

- อาจารย์: Amornrat AL
- อาจารย์: Anatee AL
- อาจารย์: Santayarat AL
- อาจารย์: Kittiphob Bantamsua
- อาจารย์: Thitinan BBj school
- อาจารย์: Suwachi KL
- อาจารย์: yaowadee lekkun
- อาจารย์: singha petnongchum
- อาจารย์: Nontapat Wbt

การหา ห.ร.ม. โดยวิธีหาร (Euclidean algorithm) คือ การหาตัวหารร่วมมาก (ห.ร.ม.) ของจำนวนตั้งแต่สองจำนวนขึ้นไป โดยการนำจำนวนที่ต้องการหา ห.ร.ม. มาหารกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตัวหารร่วมตัวสุดท้ายที่หารแล้วเหลือเศษเป็น 0 คือ ห.ร.ม

การคูณเศษส่วน ทำได้โดยการคูณเศษกับตัวเศษ และนำตัวส่วนคูณกับตัวส่วน
ทศนิยม คือ ตัวเลขที่ประกอบด้วยจำนวนเต็มและส่วนที่เป็นเศษส่วน โดยมีจุดทศนิยม (จุด) คั่นระหว่างสองส่วนนี้. ตัวเลขทางซ้ายของจุดทศนิยมเป็นจำนวนเต็ม ส่วนทางขวาเป็นเศษส่วน ซึ่งแสดงถึงค่าที่น้อยกว่าหนึ่ง.

ตัวประกอบของจำนวนนับ
ตัวประกอบ ของจำนวนนับใดๆ คือ จำนวนนับทุกจำนวนที่หารจำนวนนับนั้นได้ลงตัวพอดี (ไม่เหลือเศษ)
พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าเราเอาตัวประกอบไปหารจำนวนนับนั้น จะได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนเต็มและไม่มีเศษเหลือเลย

การหา ห.ร.ม. โดยวิธีหาร (Euclidean algorithm) คือ การหาตัวหารร่วมมาก (ห.ร.ม.) ของจำนวนตั้งแต่สองจำนวนขึ้นไป โดยการนำจำนวนที่ต้องการหา ห.ร.ม. มาหารกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตัวหารร่วมตัวสุดท้ายที่หารแล้วเหลือเศษเป็น 0 คือ ห.ร.ม

แบบรูป เป็นการจัดเรียงสิ่งของหรือจำนวนที่มีความสัมพันธ์กันอย่างมีลำดับและเป็นระเบียบตามกฎเกณฑ์ที่แน่นอน การเรียนรู้เรื่องนี้ช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์, การคิดอย่างเป็นระบบ และการคาดคะเน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในระดับที่สูงขึ้น

การแยกตัวประกอบของจำนวนนับในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หมายถึง การเขียนจำนวนนับนั้นในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ. กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การหาตัวประกอบเฉพาะของจำนวนนับนั้นๆ แล้วเขียนจำนวนนั้นในรูปของการคูณตัวประกอบเหล่านั้น.
- อาจารย์: singha petnongchum
- การเปรียบเทียบเศษส่วน โดยใช้ความรู้เรื่อง ค.ร.น. (15.48 นาที)
-
-
การเปรียบเทียบเศษส่วนโดยใช้ ค.ร.น.
การเปรียบเทียบเศษส่วนที่มีตัวส่วนไม่เท่ากัน สามารถทำได้โดยการทำตัวส่วนให้เท่ากัน ซึ่งวิธีหนึ่งที่นิยมใช้คือการหา ค.ร.น. (คูณร่วมน้อย) ของตัวส่วน เพื่อให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบ
หลักการ:
-
หา ค.ร.น. ของตัวส่วน: หา ค.ร.น. ของตัวส่วนของเศษส่วนที่ต้องการเปรียบเทียบทั้งหมด
-
ทำตัวส่วนให้เท่ากัน: นำ ค.ร.น. ที่ได้มาเป็นตัวส่วนใหม่ของเศษส่วนแต่ละจำนวน
-
หาเศษส่วนที่เท่ากัน: เปลี่ยนเศษส่วนเดิมให้เป็นเศษส่วนใหม่ที่มีตัวส่วนเป็น ค.ร.น. โดยการนำจำนวนนับที่เท่ากันมาคูณทั้งตัวเศษและตัวส่วน
-
เปรียบเทียบตัวเศษ: เมื่อตัวส่วนเท่ากันแล้ว ให้พิจารณาและเปรียบเทียบเฉพาะตัวเศษได้เลย เศษส่วนใดที่มีตัวเศษมากกว่า เศษส่วนนั้นก็จะมีค่ามากกว่า
ตัวอย่าง:
เปรียบเทียบ 43 กับ 65
-
หา ค.ร.น. ของตัวส่วน (4 และ 6):
-
พหุคูณของ 4 คือ 4, 8, 12, 16, 20, ...
-
พหุคูณของ 6 คือ 6, 12, 18, 24, ...
-
ค.ร.น. ของ 4 และ 6 คือ 12
-
-
ทำตัวส่วนให้เท่ากับ 12:
-
-
เปรียบเทียบตัวเศษ:
-
เนื่องจาก
-
ดังนั้น
-
สรุป:
-

ข้อสอบชุดนี้จัดทําขึ้นโดยรวบรวม-ปรับปรุงมาจาก “คลังข้อสอบระดับประถมศึกษา 3ปีล่าสุด
- อาจารย์: singha petnongchum

สื่อนี้สร้างเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
- อาจารย์: yaowadee lekkun

การออกเสียงคำถาม (Intonation in Questions) ในภาษาอังกฤษมีการเปลี่ยนแปลงระดับเสียงขึ้นลงเพื่อสื่อความหมายและอารมณ์ที่แตกต่างกันไป คำถามแบบ Yes/No มักจะใช้การขึ้นเสียงสูง (rising intonation) ส่วนคำถามที่ขึ้นต้นด้วย Wh- มักจะใช้การลงเสียงต่ำ (falling intonation)
Wh-questions คือ กลุ่มคำถามในภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร "wh" หรือ "How" (แม้จะไม่ได้ขึ้นต้นด้วย "wh" แต่ก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้) ใช้เพื่อถามหาข้อมูลเฉพาะเจาะจง แทนที่จะเป็นคำตอบแบบ "ใช่" หรือ "ไม่ใช่"
คำถาม Wh-ที่พบบ่อย ได้แก่:
- What: อะไร (ถามเกี่ยวกับสิ่งของ, ชื่อ, อาชีพ, การกระทำ, ฯลฯ)
- Where: ที่ไหน (ถามเกี่ยวกับสถานที่)
- When: เมื่อไร (ถามเกี่ยวกับเวลา)
- Why: ทำไม (ถามเกี่ยวกับเหตุผล)
- Who: ใคร (ถามเกี่ยวกับบุคคล)
Whose: ของใคร (ถามเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ)
Which: อันไหน, สิ่งไหน (ถามเพื่อเลือก)
How: อย่างไร, เท่าไร (ถามเกี่ยวกับลักษณะ, วิธีการ, ปริมาณ)

การเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้คำถามที่ขึ้นต้นด้วย Wh- question (เช่น What, When, Where, Who, Why, Which, Whose, Whom, How) เพื่อถามข้อมูลต่างๆ ในภาษาอังกฤษ นักเรียนจะได้เรียนรู้ความหมายและการใช้งานของคำถามแต่ละคำ รวมถึงการนำไปใช้ในสถานการณ์จริง

Past Simple Tense เป็นรูปแบบทางไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่ใช้เพื่อเล่าเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้วในอดีต โดยไม่เน้นว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ หรือใช้เวลานานแค่ไหน
ข้าม {$ a}